Work from Home อย่างไรให้ชีวิตไม่พัง

“Work From Home”เป็นคำที่คุ้นชินกันไปแล้วสำหรับคนทำงานออฟฟิศ หลายคนช่วงนี้คงต้อง Work from Home กันเป็นส่วนใหญ่หลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายบริษัทหันมาใช้มาตราการนี้กันมากขึ้น การทำงานอยู่ที่บ้านก็ทำให้เรายืดหยุ่นได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปยังที่ทำงาน และยังได้แต่งตัวสบาย ๆ อีก หรือจะเป็นการรับประทานอาหาร การทำกิจวัตรประจำวันที่ดูจะยืดหยุ่นไปได้หมดสะทุกอย่าง บางทีหากเราจัดสรรตารางไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายเราได้ บางคนไม่ได้ลุกไปไหน นั่งทำงานสลับกับการทานอาหารอยู่ที่โต๊ะทำงาน มารู้ตัวอีกทีน้ำหนักก็ขึ้นพรวด 3 โลแล้ว หรือบางคนก็นั่งเคลียร์งานเสร็จ..ให้ทันเวลา มาดูเวลาอีกทีก็ใกล้เข้านอนแล้ว ก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้ วันนี้ ทางเพลิน.จิต ตามติดชีวิต อินเทรนด์ มีเคล็ดลับง่าย ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้มาลองปรับและลองทำตามกันดูนะคะ

1. จัดตารางชีวิตให้ชัดเจน

สิ่งแรกเลย คือ เราเริ่มทำงานกี่โมง เช่น เริ่มงาน 8.30 และเลิกงาน 5 โมงเย็น ในช่วงเวลาการทำงานเราควร “โฟกัส”เวลาทำงานให้เต็มที่รวมถึงกำหนดเป้าหมายของงานให้เหมาะสมให้ 1 วันของการทำงาน แต่เราก็ต้องมียืดผ่อนคลายบ้าง เช่นลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เดินยืดเส้นยืดสาย ไม่ใช่นั่งทำงานนาน ๆ อยู่กับที่ติดต่อกันเวลาหลายชั่วโมง เพราะคุณอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคยอดฮิตที่คนทำงานในออฟฟิคร้อยละ 60 เป็นกันเลย โดยสาเหตุหลักมาจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนทำให้กล้ามเนื้อตึงและอักเสบเรื้อรังได้

2. ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ ก็จะชอบสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานกัน ไม่ว่าจะไก่ทอด พิซซ่าหรืออาหารที่มีไขมันสูงต่าง ๆ หรือพวกขนมหวานคบเคี้ยวระหว่างวัน หากเราเปลี่ยนมาทำอาหารกินเอง หรือเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ Healthy Food ทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ก็จะส่งให้เรามีหุ่นที่ดี และน้ำหนักไม่ขึ้นอีกด้วย อาจจะเลือกรับประทาน จำพวกข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ปลา เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงของทอด รวมถึงเลือกทานวิตามินจากผักผลไม้ที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายเราได้สดชื่นและอาจช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ไม่มากก็น้อยเลย

3. ทานอาหารให้ตรงต่อเวลา(ยึดหลัก 8-8-8) 

ยึดหลักง่าย ๆ 8-8-8 คือ 8 ชั่วโมงทำงาน 8 ชั่วโมงพักเบรค และ 8 ชั่วโมงแห่งการนอนหลับพักผ่อน

การทำงาน Work from Home อย่างที่บอกเลยว่า เวลาเราสามารถยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา แน่นอนว่าเราจะทานอาหารตอนไหนก็ได้ กินกี่มื้อก็ได้ กินระหว่างทำงานก็ยังได้ เพื่อให้ระบบร่างกายเรามีการเผาผลาญที่ดี เราควรรับประทานอาหารให้ตรงต่อเวลา เช้า เที่ยง เย็น มีเวลาพักเบรกและไม่ทานอาหารจุบจิบ เพื่อลดโรคที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็น โรคไขมันสะสม (ชั่งน้ำหนักตัวเองอีกที..ก็ขึ้นพรวดมา 3 โลแล้ว!) รวมถึงโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการกินอาหารไม่ตรงเวลาแล้วหรือการกินดึกและเข้านอนเลยก็ส่งผลให้เป็นโรคกรดไหลย้อนตามมาอีกหนึ่งโรคด้วยได้เหมือนกันค่ะ

4. Work Life Work Balance and Workout

การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรต้องทำเลย นั่งทำงานมาทั้งวันแล้วก็ต้องดูแลรักษาร่างกายบ้าง อาจจะขยับแขน ขยับขา กายบริหารท่าสำหรับคนทำงาน ยืดเส้น ยืดสาย ผ่อนคลายกันบ้าง เพราะถ้าหากเราปล่อยไว้เป็นเวลานาน ๆ ร่างกายเราจะโทรม ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมได้ เดินนิดเดินหน่อยก็อาจจะเมื่อยแล้ว เป็นเพราะร่างกายเราไม่ชินกับการขยับการยืดนั่นเอง เพราะฉะนั้นเราควรแบ่งเวลามาออกกำลังกายง่าย ๆ ในบ้าน สักครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมงทำตาม YouTube Channel ช่องต่าง ๆ ที่มีให้เราเลือกสรรมากมายไม่ว่าจะเป็นการ Cardio เบา ๆ การ Refresh & Relax Stretching หรือการเต้น Zumba dance ตามสไตล์ที่ตัวเองชอบให้ร่างกายได้ขยับ ได้เผาพลาญไขมันและเสริมความแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานให้กับโรคได้ด้วยค่ะ

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การเข้านอนให้เป็นเวลา และตื่นให้เป็นเวลา ส่งผลให้ร่างกายเราสมดุลและเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดี เพราะการนอนน้อยจะทำให้เรากินมากขึ้น เพื่อให้มีแรงทำงานและทำกิจกรรมต่าง ๆ และยังทำให้เกิดการต้านทานต่ออินซูลิน การเผาผลาญกลูโคสลดลง จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคตได้อีกด้วย  

สุดท้ายนี้การ WFH (Work from Home) ของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป อาจจะด้วยงานแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เวลาเข้างานก็ต่างกัน ไม่มีสูตรที่ตายตัว แต่อย่างไรแล้วหากเพื่อน ๆ ทำตามสูตร 5 เคล็ดลับที่ ทางแอดมิน เพลินจิต.ตามติดชีวิตอินเทรน์ ได้กล่าวมาข้างต้น อาจจะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้พบความบาลานซ์ของการทำงานได้ไม่มากก็น้อยเลย ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรวมถึงโควิด-19 ช่วงนี้ก็ยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวกันด้วยนะคะ 

วันนี้ทางแอดมินขอแนะนำ“แผนประกันสุขภาพแฮปปี้ เฮลธ์ แคร์” แบบมีจำนวนเงินความรับผิดส่วนแรก ช่วยให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อค่ารักษาจากสวัสดิการไม่เพียงพอ ราคาสุดประหยัดครอบคลุมถึงค่ารักษาทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (IPD & OPD) พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี* คลิกเลย >> https://www.krungsribroker.com/health-insurance 

หากเพื่อน ๆ ท่านไหนสนใจ ก่อนตัดสินใจทำประกัน แอดมินแนะนำให้ศึกษาแผนประกันอย่างละเอียด เช่น ความคุ้มครองที่จะได้รับ เงินชดเชย เบี้ยประกัน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kgibsales@krungsri.com ทางเรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ 

เขียนบทความโดย NANA

แหล่งที่มา

https://www.chillpainai.com/scoop/11704/

https://www.muangthai.co.th/th/article/work-from-home-tips