• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชั่น
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์

อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ Work from Anywhere เทรนใหม่ ใช้ชีวิตชิคๆ งานไม่สะดุด

วันที่เผยแพร่: 15 ธ.ค. 63

ตั้งแต่มีโควิด-19 ชีวิตของหลายๆ คนก็เปลี่ยนไปหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเอง คนรักสุขภาพมากขึ้น เรื่องพฤติกรรมการทานอาหารก็เปลี่ยนไปใช้บริการส่งอาหาร Delivery แทนการไปนั่งทานที่ร้าน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจผู้ให้บริการส่งอาหาร Delivery หลายๆ เจ้าเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงโควิท-19จนถึงตอนนี้

นอกจากเรื่องสุขภาพ หรืออาหาร เรื่องที่กระทบเต็มๆ เลยก็คือการปรับตัวเรื่องการทำงาน ในตอนนี้มีหลายคนที่ทำงานที่บ้าน (Work From Home) ถึงแม้ว่าช่วงแรกยังไม่ชิน จากปกติที่ไปทำงานที่ออฟฟิศ ก็ต้องเปลี่ยนบ้านเป็นที่ทำงานแทน ตื่นเช้ามาก็เริ่มทำงานเลย ระบบต่างๆ ที่เคยทำอยู่ออฟฟิศ แต่ละองค์กรก็ต้องรีบ support ให้พนักงานสามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็ตาม

พอเวลาผ่านไป องค์กรใหญ่ๆ เห็นถึงประโยชน์ของการทำงานที่บ้าน ช่วยลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย fixed cost เช่น น้ำ ไฟ มีการปรับลดพื้นที่การใช้งานลง พนักงานก็สบาย ลดภาระค่าเดินทาง มีเวลาอยู่กับครอบครัวนานขึ้น เผลอๆ productivity มากกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศซะอีก ในเมื่อข้อดีเยอะ เลยอัพเกรดจาก Work from home เป็น Work from Anywhere ไปซะเลย ไม่ว่าจะอยู่บ้าน หรืออยู่ที่ไหนก็ทำงานได้สบาย โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาออฟฟิศหรือเข้าออฟฟิศบ้าง มาพูดคุยให้หายคิดถึง กระตุ้น engagement ขึ้นกันหน่อย

แต่ต้องบอกก่อนว่า Anywhere Working ที่ร้านกาแฟ หรือ Co Working Space ไม่ใช่ Convenience Place for Work สำหรับทุกคน เพราะเมื่อนึกถึงงาน หลายคนจะนึกถึงออฟฟิศ โต๊ะทำงาน ห้องประชุม คิดถึงบรรยากาศความเป็นออฟฟิศ ได้เจอได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบ face to face หรือการนั่งทำงานที่บ้านก็อาจจะสะดวกสบายมากกว่า บางคนชอบเงียบๆ จะได้มีสมาธิกับงานได้ดีกว่า

แต่ในเมื่อเราทำงานที่ไหนก็ได้ ธุรกิจที่ปรับตัวตามเทรนอย่างธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหาร ก็เริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานที่อยากลองไปนั่งทำงานร้านกาแฟเก๋ๆ คูลๆ ดูบ้าง

ทางผู้เขียนได้รวบรวม 5 ร้านคาเฟ่นั่งทำงาน เดินทางสะดวก ติดเส้นรถไฟฟ้า ย่านใจกลางเมือง ที่ตอบโจทย์การทำงานของคนเก๋ๆ อย่างเรา มาให้ผู้อ่านได้ลองเลือกกันค่ะ

1. Muchroom Co-Working Space

หากใครกำลังหาสถานที่ทำงานที่ไม่ใช่ออฟฟิศ แต่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ครบครัน อย่าง Wifi เครื่องถ่ายเอกสาร สแกนเนอร์ – แฟกซ์ แถมได้บรรยากาศร่มรื่นเหมือนอยู่บ้าน การตกแต่งโทนสีขาว สะอาด สบายตาเหมือนอยู่ออฟฟิศ และเหมาะกับการคิดไอเดียเจ๋งๆ ผู้เขียนขอแนะนำ “Muchroom Co-Working Space” สถานที่ทำงานบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน แถมมีห้องทำงานให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะไปคนเดี๋ยวเก๋ๆ หรือไปเป็นทีม ที่นี่เค้าก็มีห้องให้เลือกมากมาย ตามชื่อ Muchroom นั่นเองค่ะ หากวางแผนนั่งทำงานยาวๆ ไป ที่นี่ยังมีอาหาร เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ให้เลือกทานกันอีกด้วย

เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 20.00 น.
Website :  http://www.muchroomthailand.com
แผนที่ :  https://goo.gl/maps/8EeFzHMQf1KTuXEW9
การเดินทาง : BTS สถานีสะพานควาย ทางออก 3 ซอยประดิพัทธ์ 23
ราคา : เริ่มต้น 240 บาท / คน / วัน
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก :  https://www.facebook.com/muchroomthailand

2. Draftboard

หากคุณเป็นสายแนว ไม่ว่าจะเป็นครีเอทีฟ กราฟฟิค ดีไซเนอร์ ช่างภาพ หรือจะเป็นสายอาชีพอื่น แต่ใจรักความแนว ต้องลองนั่งทำงานที่ “Draftboard” แห่งนี้ แล้วไอเดียคุณจะพุ่งกระฉูด ต่อให้คุณไปคนเดียว หรือต้องการห้องประชุมไว้แลกเปลี่ยนไอเดียเจ๋งๆ แถมมีอุปกรณ์พร้อมเปิดประชุมได้ทันที ที่นี่เค้าก็มีให้ Wifi พร้อม มีเครื่องปริ้นแบบ digital สะดวกสบายสุดๆ มั่นใจได้เลยว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทำงานสายอาร์ทได้เป็นอย่างดี แถมโลเคชั่นติดรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ใครจะนัดลูกค้ามาบรีฟงาน “Draftboard” ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 - 21.00 น.
Website :  https://www.ttaspace.com
แผนที่ :  https://goo.gl/maps/VhpJfkj5HG11xpUH9
การเดินทาง : BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ห้าง MBK Center ชั้น 6
ราคา : เริ่มต้น 350 บาท / คน / วัน
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก :  https://www.ttaspace.com

3. HIVE Bangkok

สำหรับใครที่วางแผนออกไปนั่งทำงานใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท บรรยากาศเท่ๆ สไตล์ลอฟต์ ขอแนะนำ “HIVE Bangkok” ในโครงการพิมาน 49 เป็น Co-working Space สาขาแรกของเมืองไทย โดยต้นกำเนิดอยู่ที่ฮ่องกง การออกแบบจะเป็นแบบเรียบง่าย แต่ดีไซน์เท่จนต้องบอกต่อ และหากใครเป็นสมาชิก “The Hive” สามารถใช้บริการได้ที่สาขาสิงคโปร์ และฮ่องกงได้อีกด้วย เหมาะสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ สำหรับโซนทำงานของที่นี่ มีทั้ง Shard Desk นั่งทำงานร่วมกัน หรือถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว ก็มี Fix Desk ไว้ให้บริการ และจุดเด่นของ “HIVE Bangkok” อยู่ที่ Roof Garden Area เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่บนชั้น 6 หากใครทำงานเหนื่อยๆ ก็สามารถพักทานอาหาร เครื่องดื่มกันก่อน แล้วค่อยกลับไปลุยงานกันต่ออีกยาวๆ ได้เลยค่ะ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 - 21.00 น.
Website :  https://thehive.co.th
แผนที่ :  https://goo.gl/maps/9YKVXF8P6trSKHSr5
การเดินทาง : BTS สถานีพร้อมพงษ์หรือทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 49 โครงการ Piman 49
ราคา : เริ่มต้น 330 บาท / คน / วัน
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก : https://thehive.co.th

4. The Work Loft

สายคูลคนไหนกำลังมองหาพื้นที่ทำงานหรือห้องประชุมที่ความเท่ ผนังปูนเปลือย ต้องลองไปที่ “The Work Loft” สีลม เป็นอีกหนึ่ง Co-Working Space ที่เหมาะกับหนุ่มสาววันทำงาน หรือนักเรียน นักศึกษา แค่เดินเข้าไปในร้านก็หล่อแล้ว รับรองเลยค่ะว่าใครอยากสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ขอให้ได้มาลองทำงานท่ามกลางบรรยากาศดิบๆ พื้นที่ปรอดโปร่ง ต้องมีหลายคนหลังรักออฟฟิศแห่งนี้แน่นอน สำหรับสมาชิกรายเดือนสามารถนั่งทำงานยาวๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อยากนั่งโต๊ะแชร์ก็มีให้ หรือเป็นห้องประชุมก็มีให้เลือกใช้บริการหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์คนคูลๆ อย่างแน่นอนค่ะ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 - 20.00 น.
Website :  https://theworkloft.com
แผนที่ :  https://g.page/theworkloft?share
การเดินทาง : BTS สถานีศาลาแดง (ทางออก 2) สถานีรถไฟฟ้า MRT สีลม (ทางออก 2)
ราคา : เริ่มต้น 370 บาท/วัน หรือ 4,490 บาท/เดือน
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก :  https://theworkloft.com

5. Ease Cafe & Co-Working Space

หากพูดถึงคาเฟ่สไตล์มินิมอล ที่มีความเรียบง่าย “Ease Cafe & Co-Working Space” ก็เป็นตัวเลือกทีดีสำหรับคนทำงานย่านอารีย์ หรือใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน ที่นี่แบ่งเป็น 2 โซนค่ะ ชั้นล่างคือ Ease cafe และ co-working space จะอยู่ชั้น 2 บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการนั่งทำงานยาวๆ แถมมี Wifi ให้ฟรี มีจอ LCD รวมถึงอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ไว้รองรับสำหรับจัดประชุมก็ได้หรือนั่งคุยงานชิลๆ หากทำงานเหนื่อยแล้วที่นี่มีอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการ เมนูแนะนำของทางร้าน Tobiko Pasta ไข่กุ้งผัดกับสปาเก็ตตี้ อร่อยกรุบๆ ไม่เลี่ยน ทานคู่กับ Coff-Tea ชาเย็นหอมชื่นใจ ทำงานไปทานของอร่อยไป ไอเดียใหม่ต้องมาแน่นอนค่ะ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00น.
แผนที่ :  https://goo.gl/maps/bRXiMFGDry5wkY6r8
การเดินทาง : BTS สถานีอารีย์ (ทางออก 3)
ราคา : เริ่มต้น 101-300 บาท/คน
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก :  https://th-th.facebook.com/Easebkk

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายๆ คนมีร้าน Café หรือ Co-working space ในใจกันแล้ว หากลองเปลี่ยนบรรยากาศ ลองออกไปทำงานในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ก็อาจจะทำให้ปิ๊งไอเดียใหม่ๆ ได้เร็วขึ้นก็ได้นะคะ เพียงแค่เลือกสถานที่ทำงานตามสไตล์และความชอบของเราเอง หวังว่าบทความนี้จะสามารถตอบโจทย์ Life Style การทำงานยุคใหม่ อย่าง Anywhere Working ได้ไม่มากก็น้อย :)

ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่บ้าน หรือทำงานที่คาเฟ่ อย่าลืมดูแลสุขสุขภาพของตัวเองและครอบครัว ด้วยความรักและความห่วงใย แอดมินขอแนะนำ “แผนประกันสุขภาพแฮปปี้ เฮลธ์ แคร์” แบบมีจำนวนเงินความรับผิดส่วนแรก ช่วยให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อค่ารักษาจากสวัสดิการไม่เพียงพอ พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี* ประกันสุขภาพส่วนบุคคลจาก Cigna เลือกได้ในแบบคุณ ครอบคลุมทุกการรักษา

 

คลิกเลย >> https://www.krungsribroker.com/health-insurance

 

ก่อนตัดสินใจทำประกัน แอดมินแนะนำให้ศึกษาแผนประกันอย่างละเอียด เช่น ความคุ้มครองที่จะได้รับ เงินชดเชย เบี้ยประกัน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kgibsales@krungsri.com  ทางเรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ สุขภาพดีเป็นลาภอันประเสริฐ แม้วันนี้ยัง     แข็งแรง แต่อนาคตไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าโรคร้ายจะไม่ถามหา ทางที่ดีที่สุดคือการดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างการทำประกันก่อนวันนั้นมาถึง ด้วยความเป็นห่วงนะ ^^